ถ้าท่านเป็นคนทำ Content หรือกำลังวางแผนจะยึดเส้นทาง Content Creator ในอนาคตอันใกล้ บทความนี้เป็นบทความที่จะช่วยตั้งเข็มทิศให้อนาคตของท่านสดใสและเรียบง่ายขึ้น
ถ้าท่านทำ Content มาเป็นเวลานานแล้ว หรือเป็น Content Creator ตัวแม่ (และตัวพ่อ) บทความสั้นๆนี้จะเป็นเหมือนอากาศสดชื่นๆที่ท่านสูดเข้าไปแล้วมีชีวิตชีวาเหมือนครั้งที่เพิ่งเริ่มหัดทำ Content ใหม่ๆ
มันไม่ใช่แค่คนทำ Content หรอกครับที่ถ้าทำอะไรต่อเนื่องเป็นเวลานานๆแล้วความสดใส ความสดชื่น ความสดใหม่ และความสนุกจะลดลง หรือบ่อยครั้งที่หลงทางไปบ้างใกล้ไกลก็แล้วแต่บุญกรรมกับแสงสีที่ไปเจอ
สำคัญที่จะกลับมาสนุกกับงานที่ทำได้เมื่อไหร่
สำหรับอาชีพอื่นผมไม่แน่ใจว่าจะใช้วิธีอะไร แต่ในสาย Content และ Copywriting แล้ว ผมพบว่าตัวเองกลับมาสนุกกับการทำงานได้เมื่อ
- กลับมาโฟกัสเรื่องพื้นฐาน
- อ่าน Content ที่อยู่ในตลาดในมุมมองของผู้เสพ ไม่ใช่ผู้ขาย
วันนี้ผมจะมาคุยเรื่องกลับมาโฟกัสเรื่องพื้นฐาน และต่อไปนี้คือ คาถา 3 บทที่จะช่วยให้ Content Creator ทุกคนแคล้วคลาดจากความยากจนและความเบลอทุกประการ
3 คาถาพิชิตจนของคนทำ Content (Content Creator)
ผมอยากจะบอกใจจะขาดว่า Copywriting ขายของดะไปเลยมันได้ผลตลอดเวลา แต่น่าเศร้าที่ผมไม่สามารถโกหกได้ เพราะถ้าเป้าหมายคือธุรกิจระยะยาวที่ Evergreen คือเป้าหมายในชีวิตของท่าน หัวใจของคนทำ Content คือสิ่งที่นักขายในสายเลือดทุกคนต้องมีในหัวใจ
คาถาบทแรก : จงอย่าขี้เหนียว
อย่าเด็ดขาด ห้ามเลย ห้ามขี้เหนียว Content ห้ามคิดจะกั๊กตรงนั้นนิด ตรงนี้หน่อย เอาไว้ปล่อยทีหลัง หรือเอาไว้ขายทีหลัง ปล่อยของที่มีออกมาให้หมดเลย เพราะถ้าไม่ปล่อยโอกาสที่ท่านจะลืมมีสูงมาก และโอกาสที่คู่แข่งในตลาดจะทำ Content นั้นออกมาก่อนมีสูงยิ่งกว่า
ดังนั้นปล่อยของที่มีออกมาให้หมด ปล่อยจนเกิดคำถามว่า
“นี่กรูให้เยอะมากไปหรือเปล่าฟะ?”
เชื่อผมนะ ช่วงไหนที่ผมเกิดคำถามนี้กับตัวเอง ช่วงนั้นเงินจะไหลมาเทมาไม่หยุดเลย ลองดูแล้วจะติดใจ
คาถาบทที่สอง : จงทำให้สนุก มีชีวิตชีวา และเต็มไปด้วยคุณค่า
คำถาม : ใครเอ่ยชอบดูแอดโฆษณาเป็นชีวิตจิตใจ?
คำตอบ : คนทำแอดโฆษณา นักการตลาด และเจ้าของธุรกิจที่กำลังมองหาไอเดียทำแอดโฆษณา
พูดง่ายๆมีเพียงคนที่เกี่ยวข้องกับแอดโฆษณาเท่านั้นที่ชอบดูแอดโฆษณา ถ้า Content ของท่านหน้าตาเหมือนแอดโฆษณา หรือแอดโฆษณาของท่านหน้าตาเหมือนแอดโฆษณา โอกาสที่มันจะถูกมองข้ามมีสูงมากๆ ดังนั้นคำแนะนำคือ ทำให้แอดโฆษณาหรือ Content ของท่านสนุก มีชีวิตชีวา อ่านง่าย และเต็มไปด้วยคุณค่า
คาถาในคาถา > ทำให้คนอ่าน อ่านแล้วเหมือนได้อะไร
คาถาบทที่สาม : อย่าเสียเวลาเอาใจคนที่ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมาย
คนไม่ใช่สุดท้ายยังไงมันก็คือคนไม่ใช่ ต่อให้พยายามแค่ไหนก็เป็นแค่ทางผ่าน
Content ของท่านก็เช่นกัน อย่าพยายามทำ Content ให้กลุ่มคนที่ไม่เห็นคุณค่าหรือจะไม่ได้รับประโยชน์อะไรจาก Content หรือแอดโฆษณาของท่านพึงพอใจ
เอาเวลา พลังงาน ความตั้งใจ ความคิดสร้างสรรค์ และหัวใจไปทำทุกอย่างให้คนที่รักและเห็นคุณค่าของเราพึงพอใจมากยิ่งขึ้นไปอีกดีกว่า แล้วท่านจะพบว่าชีวิตของท่านง่ายขึ้นมาก
อีกอย่างหนึ่งที่ Content Marketing จะช่วยท่านได้ แต่ Copywriting อาจจะช่วยไม่ได้คือ การทำ SEO
SEO คืออะไร?
ผมบอกตรงนี้เลยว่า ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ SEO แต่อย่างใด และไม่แน่ใจด้วยว่าบทความต่างๆที่ผมเขียนให้หลายๆธุรกิจขึ้นไปติดหน้า 1 ของ Google จาก Keyword ที่ต้องการได้อย่างไร แต่ Moz หนึ่งในเวบไซต์ระดับโลกเรื่อง SEO ให้คำอธิบายเอาไว้ว่า
“SEO ย่อมาจาก Search Engine Optimization ซึ่งเป็นกรรมวิธีในการเพิ่มปริมาณและคุณภาพของคนเข้าเวบไซต์ผ่านผลลัพธ์การค้นหาของ Search Engine”
อ่านแล้วต่างดาวใช่ไหม? เอาแบบนี้ละกัน
มันคือ การที่ทำไงก็ได้ให้เวลาที่ลูกค้าเปิด Google หรือ Bing หรือ Youtube แล้วพิมพ์คำค้นหาบางอย่างลงไป แล้วเวบไซต์ของท่านขึ้นมาอยู่ตรงนั้นทันที
พอจะเข้าใจง่ายขึ้นไหมครับ?
Moz ยังอธิบายเพิ่มอีกว่า มันมี 3 อย่างที่จะช่วยให้ท่านเข้าใจการ SEO ได้ง่ายขึ้น
อย่างแรกคือ คุณภาพของ Traffic (คนเข้าเวบไซต์ / คนคลิกลิงค์) เพราะท่านต้องการให้คนที่ถูกต้องเท่านั้นเข้าไปในลิงค์ที่ท่านเตรียมเอาไว้
อย่างที่สองคือ จำนวนของ Traffic ตรงนี้ยิ่งเยอะยิ่งดี แต่ถ้าจะให้ดีที่สุดต้องเยอะด้วยมีคุณภาพด้วย
อย่างสุดท้ายคือ ผลลัพธ์แบบ Organic เพราะเป้าหมายระยะยาวของการทำ SEO คือการที่ท่านจะได้รับผลลัพธ์ที่ต้องการ (จำนวนคนเข้าเวบไซต์ที่มีคุณภาพ) โดยไม่ต้องเสียเงินยิงแอดโฆษณาแม้แต่บาทเดียว
ถ้าจะเข้าใจ SEO เบื้องต้นควรทำความเข้าใจ 3 อย่างนี้ครับ
ส่วนตัวผมจะโฟกัสเรื่องการทำ Content ที่ Google และ Search Engine ชอบมากกว่าลงลึกไปในเรื่องของเทคนิคต่างๆ ตรงนั้นมีคนที่เก่งกว่าผมอีกมากมายราวกับดาวบนท้องฟ้า
ใจอยากทำนะ Content น่ะ
แต่อยากได้ยอดขายควบคู่ไปด้วย เป็นไปได้ไหม?
คำตอบคือ เป็นไปได้ครับ 🙂
อย่างที่บอกในบทความ Content Marketing VS Copywriting ว่า
คนทำ Content ที่ไม่ได้ใช้วิชา Copywriting นี่สุดจะเสียของเลย และคนที่ใช้วิชา Copywriting อย่างเดียวโดยไม่มีหัวใจของคนทำ Content ก็สุดจะเสียของเหมือนกัน
ดังนั้นไม่ว่าจะทำ Content หรือเขียน Copywriting ท่านควรจะใส่หัวใจของทั้งสองอย่างลงไปครับ และหนังสือที่ผมแนะนำคือ หนังสือ Intensive Copywriting โดย John E. Kennedy แปลโดย ธีระธรณ์ จิรธนัยโรจน์
ส่วนหนึ่งของสิ่งที่ท่านจะได้เรียนรู้จากหนังสือเล่มนี้
- ปัจจัยสำคัญสู่ความสำเร็จอันดับ 1 ของการเขียน Ad โฆษณา
- การทวีคูณพลังในการขายสินค้าและเพิ่มยอดขาย
- เหตุผลสำคัญว่าทำไม 60% ของนักการตลาด และนักโฆษณารุ่นใหม่ถึง ล้มเหลว?
- สิ่งที่ห้ามทำเด็ดขาด ในการทำการตลาด และการเขียนโฆษณา
- สิ่งที่ไม่มีเหตุผลเลยที่นักการตลาดหน้าใหม่ชอบทำพลาดกัน
หนังสือ Intensive Copywriting ราคา 400 บาท (รวมค่าส่งแล้ว) หรือซื้อพร้อม หนังสือเสียง เลยในราคา 1,000 บาทรับทันทีโบนัสที่ประเมินค่าไม่ได้จริงๆ 3 ชิ้นด้วยกัน
อ่านรายละเอียดคลิก >> หนังสือแนะนำสำหรับคนทำ Content