หนังสือความสำเร็จและการพัฒนาตัวเองทุกเล่มรวมไปถึงหนังสือระดับตำนานอย่าง The Science of Getting Rich, The Power of Your Subconscious Mind (พลังจิตใต้สำนึก) และ As a Man Thinketh พูดเหมือนกันหมด
คุณคือผู้เขียนบทให้ Story ชีวิตของตัวเอง
คำถามคือ คุณเคยกลับมานั่งรีวิวบทที่เขียนให้ตัวเองบ้างไหม? Story ที่คุณบอกตัวเองทุกวันและมีอิทธิพลอย่างมากในการใช้ชีวิตที่อยู่ข้างในใจของคุณ
สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในชีวิตของคุณตอนนี้คือ ผลรวมของประสบการณ์ ความเชื่อ ข้อมูล และคำสอนที่คุณได้รับมาตั้งแต่เกิด แต่ประเด็นคือ มันไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างต้องเป็นความจริง
มันอาจเป็นเรื่องโกหกก็ได้ที่บอกว่าคุณไม่เก่งเรื่องการลงทุน หรือตีกอล์ฟ หรือการขาย
บางทีเรื่องโกหกเหล่านั้นอาจแทรกซึมเข้ามาในชีวิตของคุณตอนคุณเผลอโดยใครก็ไม่รู้และโดยที่เขาเองก็ไม่ได้ตั้งใจ แต่ปัญหาคือ คุณเชื่อเรื่องนั้นเป็นตุเป็นตะและคิดว่ามันเป็นความจริง
ซึ่งตามกฎแล้ว ในเมื่อคุณเชื่อเช่นนั้น มันก็เลยกลายเป็นความจริง
ยิ่งนานวันเข้ายิ่งมีหลักฐานและข้อพิสูจน์มากมายว่า สิ่งที่คุณเชื่อเป็นความจริง ความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆที่บางทีอาจไม่มีอะไรเลยกลับยิ่งตอกย้ำความเชื่อของคุณ
วันนี้ลงทุนแล้วขาดทุน อ่าห์… สิ่งที่ฉันเชื่อมาตลอดเป็นจริงสินะ
วันนี้ถูกลูกค้าปฏิเสธอีกแล้ว อืม… ที่แม่ฉันเคยพูดว่าฉันขายของกากคงเป็นจริงเช่นนั้น
วันนี้ตีกอล์ฟไม่เป็นสัปปะรดเลย เฮ่อ… ที่เขาว่ากันว่าตีกอล์ฟต้องมีพรสวรรค์คงจะจริงสินะ
สารพัดจะปัจจัยที่ทำให้ความสงสัยก่อตัว คุณเริ่มที่จะมองตัวเองไม่ดี เริ่มด้อยค่าตัวเอง ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมามันก็ไม่ดีจริงๆอะแหละ เพราะบทมันเขียนมาแบบนี้จะให้ทุกอย่างออกมาดีได้ยังไง
ประเด็นคือ คุณเป็นดังสิ่งที่คุณคิด ชีวิตของคุณคือ Story ที่คุณเล่าให้ตัวเองฟังทุกวัน จิตใต้สำนึกของคุณเนรมิตสิ่งที่คุณเชื่อ เกิดเป็นวังวนของความทุกข์และสงสัยตัวเองไม่มีวันสิ้นสุด
ถ้าตอนนี้คุณยังสับสนหลงทาง ทำอะไรก็ไม่สุด นานวันเข้าความมั่นใจหดหาย เริ่มเปลี่ยน Story ที่เล่าให้ตัวเองฟังได้แล้วครับ ถ้าคุณสามารถเชื่อคำโกหกที่ไม่มีมูลอะไรเลย จนกลายเป็นความจริงของชีวิตได้ ทำไมไม่สร้างเรื่องราวที่มันจะช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นล่ะ
เขียนละครบทใหม่ของชีวิตด้วยตัวเองตั้งแต่วันนี้ และต่อไปนี้คือ 5 วิธีที่สามารถเริ่มได้เลยครับ
1. สำรวจความคิดของตัวเอง
ระวังในสิ่งที่คุณคิดเพราะมันจะกลายเป็นความจริง
ความคิดที่คุณนึกถึงบ่อยๆจะถูกยอมรับโดยจิตใต้สำนึก ซึ่งพร้อมทำทุกวิถีทางเพื่อให้ความคิดนั้นเป็นความจริง
ลองหาเวลาหลังจากอ่านบทความนี้ในการสำรวจและวิเคราะห์ความคิดที่ผ่านมาของตัวเอง
ผมมั่นใจว่าคุณจะเข้าใจทันทีว่าที่ผ่านมาคุณบั่นทอนความสุขและความสำเร็จของตัวเองไปมากแค่ไหนจากวิธีที่คุณคิดและ Story ที่คุณเขียนขึ้นมาบอกตัวเอง
สิ่งที่คุณบอกตัวเองทุกวันจะค่อยๆส่งผลต่อความคิดโดยรวม จากนั้นจะกลายเป็นความรู้สึก ความเชื่อ และการลงมือทำ
ถ้าคุณต้องการมีชีวิตที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ ชีวิตที่เปี่ยมด้วยพลังงาน ความมั่นใจ ความสุข และความมั่งคั่งร่ำรวย เริ่มต้นที่การสำรวจความคิดของตัวเอง
คิดถึงแต่สิ่งที่ต้องการ ฝึกคิดจนไม่มีที่ว่างเหลือให้สิ่งที่ไม่ต้องการเข้ามาป่วน
2. Story ที่คุณบอกตัวเอง ไม่ใช่เรื่องจริง
จิตของคุณเปรียบเหมือนหนังสือบทละครเปล่าๆ ไม่ว่าคุณจะเขียนอะไรลงไปมันจะเป็นเช่นนั้น
ถ้าคุณเขียนสิ่งที่ไม่ต้องการลงไป คุณจะได้รับสิ่งที่ไม่ต้องการ
อย่างที่บอกเมื่อตอนต้น Story ที่คุณบอกตัวเองทุกวัน ไม่ใช่เรื่องจริง มันมาจากข้อมูล ประสบการณ์ ความคิดเห็น การเรียนรู้ ซึ่งจริงอยู่ที่มันเกิดขึ้นแบบนั้น แต่ไม่ได้หมายความว่าการตีความและความเข้าใจของคุณ ณ ตอนนั้นเป็นความจริง
อย่าเชื่อในสิ่งที่ผุดขึ้นมาในความคิดของคุณมาก มันอาจไม่ใช่ความคิดของคุณก็ได้ มันแค่โผล่มาเพราะพลังงานของคุณไปตรงกับมันพอดี และเหตุผลที่พลังงานของคุณต่ำก็เพราะคุณเล่า Story ที่มันไม่ได้ช่วยให้ชีวิตดีขึ้นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
เรามาเริ่มตรงนี้ครับ ถ้าชีวิตตอนนี้ไม่ใช่ชีวิตที่คุณใฝ่ฝัน รับรู้ไว้เลยว่า มันเกิดจาก Story ที่บอกตัวเอง และ Story นั้นไม่ใช่เรื่องจริง จากนั้นเริ่มเมตตาตัวเอง เมื่อใดก็ตามที่ทำผิด อย่าทำโทษ โกรธเคือง หรือทำร้ายตัวเองมาก ให้เครดิตตัวเองหน่อย ตบไหล่ตัวเองนิด หายใจเข้าลึกๆ และรวบรวมพลังให้ตัวเองกลับมารู้สึกมีชีวิตชีวา
เรียนรู้จากความผิดพลาด บอกตัวเองเสมอว่า ตัวคุณนั้นดีพอ มีความสามารถ และทำในสิ่งที่อยากจะทำได้
พูดง่ายๆ เขียน Story ใหม่ให้ตัวเอง ค่อยๆเขียนทีละนิด เดี๋ยวมันจะค่อยๆชัดขึ้น
3. ฝึกสมาธิ
การจะลบ Story เพี้ยนๆออกจากชีวิตได้ต้องใช้กำลังและพลังงานครับ ดังนั้นสติและสมาธิจึงสำคัญ
สติจะทำให้คุณรู้เท่าทันว่าตอนนี้กำลังเกิดอะไรขึ้น และไม่ทำให้ทุกอย่างแย่ลง
สมาธิจะทำให้คุณมีกำลังมากพอที่จะลบ Story ผิดๆ และเขียน Story ใหม่ไฉไลกว่าเดิมได้
ส่วนตัวของผมรู้สึกว่าชีวิตราบรื่น และเส้นทางเดินของชีวิตชัดขึ้นทุกครั้งที่ฝึกสติและสมาธิ
สิ่งที่ฉุดผมขึ้นมาจากหลุมดำที่ทำให้ชีวิตก้าวถอยหลังเป็นเวลา 2 ปีนอกจาก Guardian Diamond (เพชรผู้พิทักษ์) และการเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์แล้ว ก็ต้องให้เครดิตการฝึกสติและสมาธิเต็มๆเลยครับ
ถ้าไม่ได้ไปเข้าปฏิบัติธรรมกรรมฐานช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ผมไม่รู้จริงๆว่าชีวิตจะเป็นอย่างไร
(หมายเหตุ – เรื่อง Guardian Diamond, เปลี่ยนเบอร์โทร และไปปฏิบัติธรรมกรรมฐาน เป็นความเชื่อส่วนตัวนะครับ)
4. เขียน Story เรื่องใหม่ไฉไลกว่าเดิม
คุณเชื่อไหมว่าชีวิตของคุณจะเปลี่ยนไป! 😀
ชีวิตของคุณจะเปลี่ยนไปถ้าเริ่มเล่า Story ใหม่ไฉไลกว่าเดิมให้ตัวเองฟังเป็นประจำ Story เรื่องใหม่นี้ควรเป็นเรื่องที่คุณต้องการจริงๆ ถ้าต้องการความสำเร็จหรือความร่ำรวย คุณควรมีบทที่ดีที่ตัวเองเป็นตัวเอกในเรื่อง ไม่ใช่ตัวประกอบผู้โชคร้ายหรือตัวอิจฉาที่คิดดีไม่เป็น
บทใหม่นี้จะไม่เสกตัวเองขึ้นมาจากอากาศ คุณต้องเขียนขึ้นด้วยตัวเอง และวิธีที่จะทำเช่นนั้นได้กำลังภายในของคุณต้องมากพอ สติและสมาธิถึงสำคัญมาก เพราะถ้ากำลังไม่พออย่าเพิ่งพูดเรื่องเขียนบทใหม่ บทเก่าที่เต็มไปด้วยความทุกข์ยังลบไม่ได้เลย
วันที่กำลังภายในของคุณถึงระดับแล้ว คุณจะค้นพบว่ามันง่ายขึ้นในการนึกถึงเรื่องดีๆ มันจะง่ายที่จะนึกถึงสิ่งที่ต้องการทั้งๆที่เมื่อก่อนมันยากมาก
5. รักษาสมดุลของพลังงาน
Story ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในใจและความเป็นจริงคือ ผลลัพธ์จากความคิดของคุณ
คุณคือผู้สร้าง ผู้เขียน และผู้ชม Story เหล่านั้น มันเป็นจินตนาการของคุณ
การจะสร้าง Story ใหม่ได้คุณต้องลบ Story เก่าก่อน จะทำเช่นนั้นได้ต้องอาศัยพลังงาน
การจะสร้าง Story ใหม่ที่ต้องการจริงๆ คุณต้องมีกำลังมากพอที่จะเชื่อว่ามันเป็นจริงได้ จะทำเช่นนั้นได้ต้องอาศัยพลังงาน
พูดง่ายๆ มันเป็นเรื่องของพลังงานและการรักษาสมดุลของพลังงาน
เริ่มต้นรักษาสมดุลของพลังงานให้ดี เมื่อใดที่อยู่ในกระแสพลังงานที่ลบ หาทางดึงตัวเองกลับมา เมื่อใดที่อยู่ในกระแสพลังงานที่เป็นบวก ซึมซับเอาไว้ และดึงตัวเองกลับมาสู่ปัจจุบันเพื่อจะได้เข้าสู่การลงมือทำ
ข้อสรุป
มนุษย์ทุกคนเล่า Story ที่เขาเขียนขึ้นในใจให้ตัวเองฟังอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
Story เหล่านั้นไม่จำเป็นต้องเป็นความจริง สำคัญที่ว่าเขาผู้นั้นเชื่อในสิ่งที่ตัวเองเล่า
ทำไมไม่เริ่มตั้งแต่วันนี้ เล่า Story ที่ตัวเองเป็นพระเอกที่มีแต่ความราบรื่น ความสุข ความมั่งคั่ง และความสำเร็จ
หนึ่งในหนังสือแนะนำสำหรับคนที่อยากเขียน Story ชีวิตของตัวเองให้ไปในทิศทางที่ตัวเองต้องการคือ หนังสือแปล The Power of Your Subconscious Mind (พลังจิตใต้สำนึก)
ดูรายละเอียดและสั่งซื้อได้ที่ >> https://shop.line.me/@ohmpiang/product/1000344313
มีทั้งเวอร์ชั่นหนังสือ (ปกแข็งคู่ควรแก่การสะสม) และหนังสือเสียง