ตอนที่แล้วผมแชร์คุณสมบัติแรกเอาไว้นั่นคือ
‘เชื่อมั่นใน ‘ตัวเลข’ เหนือ ‘ความสามารถ’ เหนือ ‘สัญชาติญาณ’
ฟังดูเหมือนง่าย แต่น้องคนนี้ใช้เวลาทั้งหมด
1 ปี 4 เดือน กับอีก 17 วัน กว่าจะได้ ‘ตัวเลขในอุดมคติ’
ผมยังจำได้ดีว่า เพราะวันนั้นเป็นวันที่ 28 ธันวาคม
และบ่ายวันนั้นผมบอกน้องเขาไปว่า…
‘ถ้าวันนี้ไม่มี PO ปีใหม่ไม่ต้องมาทำงานแล้วนะ ถ้าคิดว่าพี่พูดเล่นก็ลองดู’
วันนั้นตอนเกือบๆ 2 ทุ่ม… น้องมันส่งรูป PO พร้อมข้อความว่า…
“พอใจยัง!!!”
ซึ่งตรงนี้นำไปสู่สิ่งหนึ่งที่มีคนมาช่วยเฉลยให้ในขั้นต้นว่า
“sales คนนี้ได้ยอดขายผ่านช่องทางใหม่ ที่เป็น breakthrough”
ใช่ครับเกิด Breakthrough แต่มันน่าตื่นเต้นตรงที่เป็นการ Breakthrough ที่ช่วยให้มันสร้างช่องทางการขายที่เรียกว่า ‘ทีม Support ส่วนตัว’ ได้ตลอดเวลา
# ข้อ 2 – สามารถสร้างทีม Support ส่วนตัวได้ตลอดเวลา #
ข้อนี้ผมเคยย้อนถามตัวเองว่า ที่มันสามารถทำได้เพราะมันหน้าตาดีหรือเปล่า?
คำตอบคือ ‘ไม่เกี่ยวเลยแม้แต่น้อย’ เพราะถ้ามันขายได้เพราะเป็นผู้หญิง และหน้าตาดี โลกนี้นักขายระดับโลกคงเป็นคนหน้าตาดีหมด และมันคงไม่ต้องรอถึง 1 ปี 4 เดือน กับอีก 17 วันกว่าจะมียอดแรกในชีวิตเข้ามา…
ซึ่งถ้าให้สรุปก็ตามที่มีคนมาช่วย comment ว่า
“เขามีความเข้าใจในความเป็นมนุษย์”
แล้วทีม Support ส่วนตัวคืออะไร?
ทีม Support ส่วนตัวในที่นี้คือ ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการขายทั้งในบริษัทของตัวเอง และบริษัทของลูกค้า
ในบริษัทที่ทำงาน ผมเห็นมีแต่คนพร้อมจะอุ้มชู ผลักดัน สนับสนุนน้องคนนี้ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม
ตั้งแต่แม่บ้าน ยันผู้จัดการพร้อมยื่นมือเข้าช่วยตลอด
ซึ่งตรงนี้ผมพูดได้เลยว่าเป็นสิ่งที่นักขายเก่งๆหลายคนพลาด นั่นคือ
“ลืมที่จะขายสินค้าให้คนในบริษัทตัวเอง”
เท่านั้นยังไม่พอ ทีม Support ของน้องคนนี้ยังรวมไปถึงฝั่งลูกค้าด้วย
ตั้งแต่แม่บ้านฝ่ายลูกค้า ไปจนถึงผู้มีอำนาจตัดสินใจล้วนเป็นทีม Support เขาหมด
อ่านมาถึงตรงนี้แล้วท่านอาจจะคิดว่าน้องคนนี้มันมีของแน่ๆ ซึ่งมันก็มีจริงๆ แต่ของอย่างเดียวที่มันมีคือ
“ความกล้า”
กล้าที่ยอมรับว่าตัวเองไม่รู้อะไรเลย และกล้าที่จะขอความช่วยเหลือตลอดเวลา
บางครั้งเมื่อธุรกิจมาถึงทางตัน คำๆเดียวที่อาจจะทำให้ทุกอย่างคลี่คลายคือ
“ช่วยด้วย…”
(จะชิบหายอยู่แล้ว ทำเท่ห์ไปไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นหรอก)
# ข้อ 1 – Always back to basics… with an open eyes #
ตั้งแต่วันที่ได้ “ตัวเลข” จนถึงวันนี้ ผมไม่เคยเห็นเขาทำอย่างอื่นนอกจากงานพื้นฐานเลย
วันที่คนอื่นเครียดกับยอดขาย… เขานั่งโทรหาลูกค้า
วันที่มีข่าวว่าบริษัทยักษ์ใหญ่กำลังจะย้ายฐานไปเวียดนาม… เขานั่งโทรหาลูกค้า
วันที่ลูกค้าที่ตามมาหลายเดือนบอกว่างบไม่ผ่าน… เขาบอกว่า “แม่งอะไรวะ” แล้วก็นั่งโทรหาลุกค้า (เจ้าอื่น)
วันที่มีใครก็ตามขายของได้… เขาจะวางโทรศัพท์ เงี่ยหูฟัง เพื่อหาว่า “อะไรทำให้ขายได้?” และ “ลูกค้าแนวไหน?” จากนั้นก็โทรหาลูกค้า
วันที่เขาลาพักร้อน แต่ลูกค้าดันโทรหา… เขาจะโทรหาผมและบอกว่า “ลูกค้ากำลังจะเข้าไปหา… อย่าให้กลับบ้านถ้าไม่ได้เซ็นใบสั่งซื้อ… แน๊ะ”
เอาเป็นว่า… ผมไม่เคยเห็นเขาไม่โทรหาลูกค้าเลย
จะท้อ จะเหี่ยว จะมียอดเยอะ ก็ยังคงโทรหาลูกค้าอยู่ทุกวัน
สรุป…
งาน Sale เป็นงานที่พรแสวงชนะพรสวรรค์ได้ตลอดเวลา
และไม่มีใครสอนใครได้ จนกว่าเราจะพยายาม
OHMPIANG
เจษ
ปล. ทุกวันนี้ผมยังเป็นแฟนพันธุ์แท้ของ Direct Selling อยู่ เพราะผมสามารถทำการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพก็เพราะผมเริ่มต้นจาก Direct Selling
[…] […]