บทความนี้เป็นบทความที่เป็นจักรวาลคู่ขนานกับบทความ ความแตกต่างระหว่าง Copywriting และ Content Marketing ถ้าท่านยังไม่ได้อ่าน หลังอ่านบทความนี้จบผมแนะนำให้ลองกลับไปอ่านนะครับ มันจะช่วยให้เห็นภาพอะไรได้ง่ายขึ้นเยอะเลย หรือถ้าเคยอ่านแล้วบทความนี้จะช่วยขยายความอะไรหลายๆอย่าง
เข้าเรื่องกัน Content Marketing VS Copywriting อะไรคือความเหมือน? อะไรคือความแตกต่าง?
คำตอบที่เรียบง่ายและน่าจะเข้าใจง่ายที่สุดคือ
Content Marketing คือ การสร้างและแบ่งปัน Content ที่มีประโยชน์ มีคุณค่า และโดนใจกลุ่มเป้าหมายแบบฟรีๆ ไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อดึงดูดและเปลี่ยนผู้มุ่งหวังหรือกลุ่มเป้าหมายให้กลายเป็นลูกค้า และเปลี่ยนลูกค้าธรรมดาให้กลายเป็นลูกค้าประจำ
ส่วน Copywriting คือ การโน้มน้าวให้ผู้อ่านตัดสินใจลงมือทำในสิ่งที่เราต้องการ บางครั้งอาจเป็นตัดสินใจซื้อสินค้า หรืออาจจะกดติดตาม หรือยกหูขึ้นมาโทรศัพท์หาเรา
ถ้าจะให้แยกประเภท Content Marketing คงจะเป็นบทความ, Blog, Podcast, Youtube หรือโพสท์ประเภทให้ความรู้ต่างๆ ส่วน Copywriting คือ Salepage, Landing Page หรือแอดโฆษณา
ฟังดูแตกต่างใช่ไหม? อย่าไปคิดเช่นนั้น เพราะเวบไซต์ด้าน Content Marketing ระดับโลกอย่าง Copyblogger บอกเองว่า
Content ที่ไม่ได้ใช้วิชา Copywriting แมร่งโคตรเสียของเลย
เพราะมันมีบทความหลายบทความ นักเขียนหลายคน ธุรกิจหลายธุรกิจ ที่มี Content ดีมากๆ แต่แทบไม่มีใครอ่านเลย หรือถ้ามีก็น้อยนิด
ถ้าทุกวันนี้ท่านทุ่มเททำ Content แต่ยังไม่ได้รับผลลัพธ์ที่ต้องการ หรือทำมานานแล้วคนติดตามก็ยังไม่เพิ่มขึ้นดังใจหวัง ปัญหาของท่านอาจจะอยู่ที่การไม่ได้ใช้วิชา Copywriting ก็ได้
Copywriting คือศิลปะแห่งการโน้มน้าวให้ผู้อ่าน ผู้มุ่งหวัง หรือกลุ่มเป้าหมาย ตัดสินใจทำในสิ่งที่ท่านต้องการ
ลองถามตัวเองว่า Content ที่ทำๆอยู่ มีการโน้มน้าวให้คนอ่านหรือกลุ่มเป้าหมายตัดสินใจทำอะไรบ้างหรือเปล่า? หรือทำไปอย่างนั้นแหละ ถ้ามันดีเดี๋ยวคนก็มาติดตามเอง
เชื่อผมเถอะว่าคำพูดง่ายๆอย่าง “อย่าลืมกดติดตาม” “อย่าลืม Subscribe” “ถ้าชอบกดติดตาม” หรือแม้แต่ “กดติดตามเพื่อเป็นกำลังใจ” มีผลมากกว่าที่คิด
ถ้าท่านวางแผนที่จะสร้างธุรกิจระยะยาวที่มีลูกค้าและผู้ติดตามเยอะๆ เริ่มต้นที่จะโน้มน้าวได้แล้ว
ฟังดูดีมากเลย Copywriting นี่มันเป็นวิชาเทพอันดับหนึ่งในใต้หล้า?
โนว… มันไม่ใช่แบบนั้นครับ เพราะถ้าถามว่าใช้ Copywriting อย่างเดียวจะช่วยให้แบรนด์หรือธุรกิจของท่านกลายเป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนได้ไหม?
คำตอบคือ มันไม่เพียงพอครับ
กฎของจักรวาลบอกเอาไว้ว่า “มีรับเข้า ก็ต้องมีให้ออกไป” ดังนั้นมีขายก็ต้องมีมอบคุณค่า
จริงอยู่ที่ถ้าวันนี้สินค้าหรือบริการของท่านคุณภาพสูง มันก็คือการมอบคุณค่าที่ดีมากๆแล้ว แต่มันไม่พอครับ เพราะถ้าเป็นแบบนั้นท่านกำลังมอบคุณค่าให้เฉพาะลูกค้าของท่าน
คำถามคือ แล้วคนอื่นที่ยังไม่ใช่ลูกค้าของท่านล่ะ? ท่านจะปล่อยให้พวกเขาเหล่านั้นเดินเข้าไปอยู่ในอุ้งมือของคู่แข่งที่ไม่รู้ว่าสินค้าหรือบริการจะมีคุณภาพดีเท่าของท่านหรือ?
ผมว่ามันไม่ยุติธรรมนะ
ให้ผมสรุปแบบนี้ครับ
คนที่ใช้วิชา Copywriting อย่างเดียวโดยไม่มีหัวใจของคนทำ Content แมร่งโคตรเสียของเลย
เจ้าของธุรกิจและนักการตลาดที่ฉลาดต้องใช้ทั้ง Content Marketing และ Copywriting ให้เป็น และใช้ในทุกอย่างที่เขาทำ
ตัวผมเองเคยทำ Content Marketing จ๋า ประเภทชีวิตพี่มีแต่ให้โดยไม่หวังผลตอบแทน มันดีต่อใจ มันดีต่อความรู้สึก และมันดีต่อจิตวิญญาณมากมาย จนถึงวันที่ธุรกิจไม่โตตามที่คาดหวังเอาไว้ เพราะมีแต่คนติดตามแต่ไม่มียอดขาย ซ้ำร้ายพอจะขายของก็ถูกตราหน้าว่าเป็นพวกเห็นแก่เงิน (เอ๊า… คนต้องกินต้องใช้)
เช่นกันผมก็เคยใช้แต่วิชา Copywriting อย่างเดียวโดยช่างหัว Content Marketing ไปเลย ขายดะ เอะอะขาย เอะอะทำยอด ซึ่งมันก็ดีต่อใจ ดีต่อความรู้สึก และดีต่อจิตวิญญาณอีกอะแหละ แถมครั้งนี้ดีต่อกระเป๋าตังด้วย แต่พอมาถึงจุดๆหนึ่ง จุดที่ผู้บริโภคเริ่มระวังตัวมากขึ้น เพราะตลาดเริ่มมีอันตรายจากของด้อยคุณภาพ และความผิดหวังจากการบริการจากผู้เล่นคนอื่นในตลาด (เป็นปกติในทุกตลาด) มันทำให้ธุรกิจเติบโตช้ากว่าที่คาดหวังเอาไว้เช่นกัน
ดังนั้นทางสายกลางถึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
สรุปว่า Content Marketing VS Copywriting อันไหนดีกว่ากัน?
ถ้าวันนี้ต้องการยอดขาย วิชา Copywriting คือ คำตอบครับ
ถ้าวันนี้ต้องการให้คนรู้จักมากขึ้น ภาพลักษณ์แบรนด์ดีขึ้น และให้คุณค่าแก่ผู้คนมากขึ้น Content Marketing คือ คำตอบครับ
แต่ถ้าต้องการธุรกิจระยะยาวที่ทุกๆวันมีผู้มุ่งหวังหรือกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆเข้ามาในธุรกิจทุกวันด้วยใจที่เปิดกว้าง และสามารถเปลี่ยนผู้มุ่งหวังเหล่านั้นให้กลายเป็นลูกค้าประจำได้
ใช้ทั้ง Content Marketing, Copywriting และ OHMPIANG คือคำตอบครับ 🙂
ทำไมต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งล่ะ? ในเมื่อท่านสามารถเลือกทั้งหมดได้
[…] Content Marketing VS Copywriting […]