ผมชอบบทนำของหนังสือ Think and Grow Rich เวอร์ชั่นแรกสุดเลยที่ตีพิมพ์เมื่อปี 1937 มากๆ ที่นโปเลียน ฮิลล์ เขียนว่า
“หลังจากที่คุณอ่านหน้าสุดท้ายของ Think and Grow Rich จบ มือคู่ที่วางหนังสือเล่มนี้ลงบนโต๊ะ ไม่ใช่มือคู่เดิมกับเมื่อครั้งที่หยิบหนังสือขึ้นมาพลิกหน้าแรก
คนที่ลุกขึ้นมาจากเก้าอี้และเดินกลับเข้ามาสู่สังเวียนของชีวิต ไม่ใช่คนๆเดิม เขาคือคนที่เปลี่ยนไป
อุปสรรค ขวากหนาม เมฆหมอก และอวิชชาที่เขามโนขึ้นเพื่อด้อยค่าและเตะตัดขาตัวเองทั้งหลาย ที่มันคอยฉุดรั้งไม่ให้เขากล้าคิด กล้าฝัน และกล้าลงมือทำ จู่ๆก็มลายหายไปเสียสิ้นอย่างอัศจรรย์
เส้นทางเดินของเขาจากมืดมัว กลายเป็นสว่าง โล่ง และเห็นปลายทางได้อย่างชัดเจน
ตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป คนๆนั้นได้รับพรสวรรค์และความสามารถในการเปลี่ยนความฝันให้กลายเป็นความจริง เขาได้รับวิชาเล่นแร่แปรธาตุในการเปลี่ยนความคิดให้จับต้องได้
สิ่งเลื่อนลอยอย่างโชคชะตาหรือเหตุการณ์ไม่คาดฝัน จะสิ้นอำนาจเหนือเขา
คนที่เป็นผู้โดยสารมาทั้งชีวิต จู่ๆได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นกัปตันเรือ
ผู้สามารถกำหนดเส้นทางของชีวิตให้แล่นไปสู่ผลลัพธ์ที่เขาต้องการทุกประการ”
มันเด็ดขาด ทรงพลัง และผมก็เชื่อว่าเป็นเช่นนั้นถ้าท่านอ่าน Think and Grow Rich #OHMPIANG Edition มากพอ แต่สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มอ่านเป็นครั้งแรก ดาเมจมันน่าจะรุนแรงไปจนถึงขึ้น Oversell ดังนั้นในเวอร์ชั่นหลังๆ นโปเลียน ฮิลล์ ถึงตัดสินใจเอาบทนำนี้ออก
OHMPIANG School of Success EP.11 นี้ ผมจะมาเพิ่มโอกาสของท่านในการทำให้บทนำดั้งเดิมนี้เป็นจริง ด้วยการแนะนำให้ท่านได้รู้จักกับชายผู้สร้างเศรษฐีมากที่สุดในโลก เจ้าของผลงานหนังสือระดับตำนาน Think and Grow Rich
เพราะอย่างที่ผมชอบพูดอยู่บ่อยๆ ถ้าท่านได้รู้จักเจ้าของผลงานมากขึ้น ท่านจะอินกับการศึกษาและชื่นชมผลงานของเขามากขึ้น
นโปเลียน ฮิลล์ เกิดในกระท่อมหลังเล็กๆในรัฐเวอร์จิเนีย เมื่อปี 1883
พ่อแม่ของเขามีฐานะยากจนทำให้วัยเด็กของเขาเต็มไปด้วยความลำบาก อดมื้อกินมื้อ ต้องดิ้นรนเอาตัวรอดทุกวัน
ตรงนี้เองทำให้เขามุ่งมั่นที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้น เขาอ่านหนังสือเยอะมากเพราะเชื่อว่าหนังสือจะเป็นกุญแจสู่ชีวิตที่ดีกว่าเดิม
เขาเริ่มอาชีพนักข่าวด้วยการเป็นนักเขียนอิสระให้หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น ด้วยความที่เป็นนักอ่านตัวพ่อทำให้ผลงานของเขาเข้าตาบรรณาธิการสำนักพิมพ์มีชื่อเสียงในเวลาไม่นาน
นโปเลียน ฮิลล์ถูกเชิญให้เป็นนักข่าวอิสระทำงานให้สำนักพิมพ์นั้น เขาเขียนข่าวและบทความจำนวนมากให้สำนักพิมพ์ นานวันเข้าทักษะการเขียนและการสื่อสารของเขาก็พัฒนาขึ้น
เขาไม่เคยหยุดอ่านหนังสือ เขาไม่เคยหยุดพยายามหาทางพัฒนาตัวเองและเติบโต จนกระทั่งผลงานของเขาเข้าตาอภิมหาเศรษฐีแอนดรูว์ คาร์เนกี้ หนึ่งในบุคคลที่ร่ำรวยและประสบความสำเร็จที่สุด
คาร์เนกี้มองเห็นศักยภาพของนโปเลียน ฮิลล์ และแนะนำให้เขารู้จักกับเพื่อนนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างเฮนรี่ ฟอร์ด โธมัส เอดิสัน และอเล็กซานเดอร์ เกรแฮม เบลล์
นโปเลียน ฮิลล์ทำตัวเหมือนฟองน้ำ เขาซึมซับทุกอย่างที่บุคคลเหล่านี้พูดและสอน
ยิ่งอยู่ใกล้บุคคลที่ประสบความสำเร็จ นโปเลียน ฮิลล์ ยิ่งอยากรู้ว่า มันมีอยู่จริงไหม หลักการของความสำเร็จที่ขอแค่ทำตาม ไม่ว่าใครก็สามารถประสบความสำเร็จได้
เขาเริ่มศึกษาลงลึกมากขึ้นเรื่องความสำเร็จ สิ่งที่เขาค้นพบเพิ่มเติมนำเขาไปสู่คำถามที่เปลี่ยนชีวิตของคนหนุ่มสาวทั่วโลกที่ต้องการความสำเร็จเป็นเวลาเกือบ 100 ปีมาแล้ว
คำถามของแอนดรูว์ คาร์เนกี้ที่ถามว่า
“คุณเต็มใจใช้เวลาสัก 20 ปีหรือมากกว่าสัมภาษณ์คนประสบความสำเร็จ ศึกษาพวกเขาอย่างละเอียด จากนั้นตกผลึกเป็นหนังสือเกี่ยวกับหลักการของความสำเร็จเพื่อเปิดเผยเคล็ดลับเหล่านี้ให้เหล่าชายและหญิงทั่วโลกที่อาจกำลังต่อสู้ดิ้นรนในชีวิตอยู่ไหม”
เขาตอบว่า “เต็มใจ” และใช้เวลาอีก 25 ปีหลังจากนั้นในการสัมภาษณ์บุคคลที่ประสบความสำเร็จกว่า 500 คน รวมไปถึงบุคคลที่ล้มเหลวกว่า 25,000 คนเพื่อเขียนเป็นตำราเกี่ยวกับความสำเร็จที่ชื่อ Think and Grow Rich
หนังสือ Think and Grow Rich ของนโปเลียน ฮิลล์ถูกตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี 1937 และกลายเป็นหนึ่งในหนังสือที่ทรงอิทธิพลที่สุดในหมวดการพัฒนาตัวเองและความสำเร็จ มียอดขายหลายล้านเล่ม และได้รับการยอมรับว่าเป็นหนังสือที่สร้างเศรษฐี มหาเศรษฐี และอภิมหาเศรษฐีมากที่สุด
การได้พบกับแอนดรูว์ คาร์เนกี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนของนโปเลียน ฮิลล์ หลายคนบอกว่ามันเป็นโชคดีของเขา คนเหล่านั้นไม่เข้าใจและไปด้อยค่าความเพียรพยายาม ความปรารถนา และความมุ่งมั่นที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้นตั้งแต่เด็กของนโปเลียน ฮิลล์
พวกเขาไม่เข้าใจว่าหลักการของความสำเร็จที่นโปเลียน ฮิลล์ค้นพบนำพาเขามาพบกับจุดเปลี่ยนของชีวิตที่ชื่อแอนดรูว์ คาร์เนกี้
หลักการของความสำเร็จที่เขาค้นพบที่อยู่ในหนังสือ Think and Grow Rich คือหลักการที่ไม่ว่าใครก็ตามสามารถเรียนรู้และทำตามได้
ชีวิตและการเดินทางของนโปเลียน ฮิลล์คือบทเรียนอย่างดีของการทำงานหนัก ความทุ่มเท และความมุ่งมั่นไม่ย่อท้อในการทำพันธกิจของชีวิต
ต่อไปนี้คือบทเรียนสำคัญที่เราสามารถเรียนรู้ได้จากเรื่องราวของเขา
จงเชื่อมั่นในตัวเอง
นโปเลียน ฮิลล์เชื่อในตัวของเขาและความสามารถในการสร้างความแตกต่างให้โลกใบนี้ เขาไม่ยอมรับอุปสรรคและความโชคร้ายที่ถูกยัดเยียดใส่ชีวิตเขาแม้แต่น้อย ไม่ว่าจะเป็นความยากจนในวัยเด็ก หรือสิ่งที่เกิดขึ้นกับแบลร์ลูกชายของเขา
เขาชัดเจนว่าต้องการสิ่งใดและอุทิศชีวิตของเขาในการช่วยให้ผู้อื่นได้ใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองใฝ่ฝัน
เห็นคุณค่าของการมี Mentor
การได้พบกับแอนดรูว์ คาร์เนกี้และคนสำเร็จมากมายช่วยพาเขาเข้าสู่เส้นทางของความสำเร็จ นโปเลียน ฮิลล์เห็นคุณค่าของการได้เรียนรู้จากคนที่ประสบความสำเร็จก่อนเขา เขาไม่เคยกลัวที่จะขอคำแนะนำและขอความรู้จากเขา
จะเห็นได้จากบทที่ 15 ของหนังสือ Think and Grow Rich เรื่องประสาทสัมผัสที่ 6 ว่าเขาจริงจังในการเรียนรู้จากคนที่สำเร็จมากแค่ไหน
คำว่ายอมแพ้ไม่มีในพจนานุกรม
ในหนังสือมีเขียนเอาไว้ว่า อย่างแรกเลยเมื่อเขาซื้อพจนานุกรม เขาจะเปิดไปหาคำว่า เป็นไปไม่ได้ และตัดมันออก
ชีวิตและผลงานของเขาคือข้อพิสูจน์ว่า เขาเป็นคนที่ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคใดๆ Think and Grow Rich ใช้เวลาเขียนทั้งสิ้น 25 ปี ต้องคุยกับคนหลายหมื่นคนเพื่อวิเคราะห์และรวบรวมข้อมูล จากนั้นต้องมาตกผลึกและนั่งเขียน
ถ้าท่านเป็นเหมือนผมที่ปวดหัวเรื่องคน ท่านย่อมเห็นด้วยว่าการคุยกับคนหลายหมื่นคนต้องเจออะไรขนาดไหน แต่เขาไม่ยอมแพ้
ผลลัพธ์คือ หนังสือในตำนานที่เป็นภารกิจแห่งชีวิตของเขา
ทั้งหมดคือเรื่องราวของนโปเลียน ฮิลล์ที่ผมอยากเล่าให้ฟัง ชายที่อุทิศชีวิตเพื่อปลดล็อคความลับของความสำเร็จ ความลับที่พร้อมช่วยให้ชายและหญิงทุกคนที่พร้อมเปิดใจเชื่อและลงมือทำ เห็นความฝันของพวกเขากลายเป็นความจริง
สำหรับผมจริงอยู่ที่เนื้อหาในหนังสือ Think and Grow Rich สอนหลักการของความสำเร็จทั้ง 13 ข้อที่ไม่ว่าใครก็สามารถทำตามและประสบความสำเร็จได้
แต่อย่าลืมว่าตัวหนังสือเองคือข้อพิสูจน์อย่างดี เพราะหนังสือเล่มนี้คือผลลัพธ์ของการใช้หลักการที่อยู่ในหนังสือ
มันคือผลรวมของหลักการทั้ง 13 ข้อที่กลายเป็นความจริงจับต้องได้และจะเปลี่ยนชีวิตของท่าน หากท่านรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร และพร้อมแลกทุกอย่างในชีวิตเพื่อสิ่งนั้น
ถ้าตอนนี้ท่านยังไม่ได้ครอบครองหนังสือ Think and Grow Rich #OHMPIANG Edition สามารถสั่งซื้อได้ที่ไลน์ @ohmpiang (ใส่ @ ด้วย)
ขอปิดท้าย Podcast Episode นี้ด้วยคำพูดคลาสสิคตลอดกาลของนโปเลียน ฮิลล์
“ไม่ว่าจิตของมนุษย์จะรับรู้และเชื่อสิ่งไหน มันจะเป็นความจริง”