นานมาแล้ว มีเด็กเลี้ยงม้าผู้ต่ำต้อยคนหนึ่งนามว่า วิล
เขาเติบโตมาในครอบครัวที่ยากจน อดมื้อกินมื้อ
ทุกครั้งที่วิลเห็นลูกค้าผู้มั่งคั่งมาซื้อม้า เขาจะเห็นภาพตัวเองในบทบาทที่กลับกันเสมอ แต่มันก็เป็นเพียงแค่ความฝันสำหรับเขา เพราะเขาไม่เคยคิดว่าเขาจะสามารถมีชีวิตที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันได้
วันหนึ่งขณะที่เขาพาม้าไปกินน้ำที่ริมทะเลสาบ เขาบังเอิญได้พบกับชายชราในชุดผ้าไหมที่เดินทางมาจากแดนไกลและนั่งพักผ่อนที่ริมทะเลสาบพอดีเช่นกัน
วิล มองไปที่เสื้อผ้าหรูหราของชายชราก็ถอนหายใจ และพาม้าไปกินน้ำ สายตามองเหม่อไปอย่างไร้จุดหมายที่ทะเลสาบ
ชายชราสังเกตเห็นวิลและสายตาเลื่อนลอยของเขา เขาเดินมาและถามวิลว่า
“ไอ้หนุ่ม ยังไม่ถึงเวลาที่เจ้าจะมีสายตาเลื่อนลอยเช่นนั้น ตอบข้าซิ วันๆในหัวของเจ้าคิดถึงเรื่องอะไรบ้าง”
วิลตอบว่า “ข้าฝันถึงความยิ่งใหญ่และความสำเร็จ ทุกครั้งที่ลูกค้าผู้มั่งคั่งเข้ามาที่คอกม้าเพื่อเลือกม้าของเจ้านายข้า ข้าจะฝันถึงตัวเองที่สามารถเดินเข้ามาเลือกซื้อม้าได้อย่างอิสระ แต่มันคงเป็นแค่ความฝัน เพราะข้ากลัวว่าข้าไม่มีอะไรดีพอจะมีชีวิตเช่นนั้นได้”
ชายชรายิ้มและพูดว่า
“เจ้าเป็นในสิ่งที่เจ้าคิด ถ้าเจ้าคิดถึงความฝันต่อให้มันจะดูเทพนิยายแค่ไหนและโฟกัสมองเห็นแต่สิ่งดีๆที่เกิดขึ้นในชีวิต พร้อมๆกับรักษาพลังงานเชิงบวก เจ้าจะได้รับทุกอย่างที่เจ้าต้องการ แต่เมื่อใดก็ตามที่เจ้าปล่อยให้ความกลัวและความสงสัยมีอิทธิพลเหนือเจ้า สิ่งที่เจ้าฝันจะไม่มีวันเป็นจริง”
ได้ฟังดังนั้น วิล เด็กเลี้ยงม้าผู้ต่ำต้อยเกิดแรงบันดาลใจครั้งใหญ่ เขาตัดสินใจโฟกัสที่ความฝันและลงมือทำในสิ่งที่ทำได้ เขาเริ่มจินตนาการภาพตัวเองสำเร็จและเดินเข้ามาเลือกซื้อม้าในคอกของเจ้านาย เขาเห็นภาพตัวเองเป็นพ่อค้าผู้มั่งคั่ง
ตั้งแต่วันนั้นเขาเริ่มเดินไปยังทิศทางของสิ่งที่เขาฝัน ทิศทางที่เขาเห็นมาตลอดแต่ขาดความมั่นใจที่จะเดิน เขาไม่ได้เดินก้าวใหญ่ เขาค่อยๆเดิน ค่อยๆเรียนรู้
วินาทีที่เป้าหมายของเขาชัดเจน เขาเปลี่ยนตัวเองจากเด็กคอกม้า เป็นนักขาย เขาเริ่มจากสิ่งที่เขามีนั่นคือความรู้เชิงลึกของเขาเกี่ยวกับม้าแต่ละตัว
เขาเลือกม้าที่เหมาะสมกับเจ้าของสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าของเขาอย่างมาก
แม้ว่าต้องพานพบอุปสรรคนานัปการ วิลโฟกัสที่ความฝันและเอาตัวเองอยู่ในพลังงานที่เป็นบวกเสมอ เมื่อใดก็ตามที่ความกลัวและความสงสัยเกิดขึ้น เขาจะทำงานอย่างบ้าคลั่ง ใจนึกถึงแต่ภาพตัวเองที่ประสบความสำเร็จ
แน่นอนเขาไม่ลืมที่จะออมเงิน 1 ส่วนจากทุกๆ 10 ส่วนที่เขาหาได้ เพื่อนำไปลงทุนสำหรับอนาคต
วันหนึ่งขณะที่วิลกำลังแนะนำม้าให้ลูกค้าคู่หนึ่งด้วยความกระตือรือร้น ซามูเอล พ่อค้าผู้มั่งคั่งผ่านมาที่เมืองที่วิลอยู่พอดี เขายืนฟังวิลพูดถึงม้าอยู่นานและประทับใจในความตั้งใจและความรู้เกี่ยวกับม้าที่วิลมีอย่างมาก
ซามูเอลเป็นพ่อค้าเครื่องเทศและสมุนไพรที่สร้างตัวขึ้นจากไม่มีอะไรเลย ใช้เพียงการทำงานหนัก ความเพียรพยายาม และสายตาเฉียบคมในการลงทุนเท่านั้น
เขาเห็นตัวเขาเมื่อครั้งยังหนุ่มในตัววิล ตัวเขาที่เต็มไปด้วยความหิวกระหาย ทะเยอทะยาน และความมุ่งมั่นที่จะประสบความสำเร็จ
เขายื่นโอกาสในการทำงานใกล้ชิดกับเขาให้วิล และวิลก็ตอบรับแทบจะทันที เพราะสิ่งที่วิลต้องการมาตลอดคือ Mentor ที่คอยชี้แนวทางให้
ภายใต้การสอนของซามูเอล วิลเรียนรู้เกี่ยวกับธุรกิจเครื่องเทศอย่างรวดเร็ว เขาเข้าใจตลาดและความต้องการของลูกค้าอย่างลึกซึ้ง
เขาทำงานกับซามูเอลหลายปี จนในที่สุดเขารวบรวมเงินเก็บได้ก้อนหนึ่งและตัดสินใจเริ่มต้นธุรกิจเครื่องเทศของตัวเองโดยเน้นเครื่องเทศที่ซามูเอลไม่ได้โฟกัส
ด้วยเงินทุน ความรู้ และ Connection ที่เขาสร้างตลอดหลายปีที่อยู่กับซามูเอล ธุรกิจของวิลเติบโตอย่างรวดเร็ว เขากลายเป็นหนึ่งในนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ เป็นที่นับหน้าถือตาในแวดวงธุรกิจและการค้า
แต่ทุกความล้มเหลวมีเมล็ดพันธุ์ของความสำเร็จฉันใด ทุกความสำเร็จย่อมมีอุปสรรคและความท้าทายฉันนั้น
ธุรกิจของเขาต้องพบกับการแข่งขันอันดุเดือดจากพ่อค้าเครื่องเทศจากต่างเมือง ซึ่งเป็นเมืองที่เขารับเครื่องเทศมาขาย
จากที่เป็นเจ้าของตลาดแต่เพียงผู้เดียว ตอนนี้วิลต้องแข่งกับเจ้าของเครื่องเทศโดยตรง เขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่บีบคั้น ความเครียดและความกดดันสารพัดถาโถมเข้าใส่ สุดท้ายเขากลับไปจมอยู่กับความคิดลบอีกครั้ง
เมื่อจมอยู่ในห้วงกระแสพลังงานลบ ทุกอย่างที่สร้างมาค่อยๆถดถอยทีละนิด จนกระทั่งวันหนึ่งเขาย้อนกลับไปนึกถึงคำของชายชราที่ริมทะเลสาบ
เขาตระหนักรู้ว่า เขาหยุดโฟกัสที่ความฝันและเป้าหมาย และให้พลังกับความกลัว ความกังวล ความสงสัยที่เกิดจากคู่แข่งและความไม่แน่นอนแทน
แต่เขาจนแล้วจนรอด เขาไม่สามารถดึงตัวเองกลับมาให้โฟกัสความฝันได้ ความคิดลบๆมันผุดขึ้นมากวนเขาทุกครั้งที่เขาเผลอ
เขาตัดสินใจหยุดทุกอย่างและออกเดินทางไปหาชายชราคนนั้นเพื่อขอความช่วยเหลืออีกครั้ง
ชายชราฟังเรื่องราวของวิลและตอบว่า
“เจ้าเพียงต้องโฟกัสไปที่ความฝันและเชื่อมั่นในตัวเอง การแข่งขันอาจดุเดือด ความท้าทายครั้งนี้อาจใหญ่หลวง แต่เจ้ามีพลังมากพอที่จะข้ามผ่านไปได้ จำเอาไว้ว่า เจ้าเป็นสิ่งที่เจ้าคิด”
ด้วยคำแนะนำนี้ วิลตัดสินใจลงมือทำในสิ่งที่เขาสามารถทำได้ทันทีอีกครั้ง เขาจินตนาการภาพความสำเร็จที่ต้องการ ความสำเร็จที่อยู่เหนือการแข่งขันทุกประการ
เมื่อทิศทางชัดเจน ความคิด และการกระทำไปในทิศทางเดียวกัน สุดท้ายเขากลายเป็นสิ่งที่เขาคิดจริงๆ
นับแต่วันนั้นเขาไม่เคยลืมคำแนะนำของชายชราอีกเลย ไม่ว่าจะเผชิญกับอุปสรรคหรือความท้าทายแบบไหน เขาจะโฟกัสที่ความฝันและลงมือทำในสิ่งที่สามารถทำได้เลย
หลายปีต่อมา ทั่วอาณาจักรรู้จักเขาในนามพ่อค้าเครื่องเทศผู้มั่งคั่งและปราดเปรื่อง เขาข้ามผ่านความกลัวและความสังสัย และได้รับความสำเร็จมากกว่าที่เขาจินตนาการ
วิลได้รับบทเรียนสำคัญที่สอนเขาว่า ความคิดมีพลัง ทุกสรรพสิ่งที่จับต้องได้ล้วนมีจุดเริ่มต้นที่ความคิด และถ้าเราโฟกัสไปที่ความฝัน ความปรารถนา และสิ่งที่เราต้องการ จากนั้นลงมือทำ เราจะได้รับทุกสิ่งที่เราต้องการ
เรื่องราวของวิล เด็กเลี้ยงม้าผู้ต่ำต้อย ผู้ใฝ่ฝันอยากมีชีวิตที่ประสบความสำเร็จ สอนให้เรารู้ถึงความสำคัญของคำว่า “คุณเป็นสิ่งที่คุณคิด”
ความคิดและความเชื่อมีพลังในการสร้างทุกอย่างให้กลายเป็นความจริง
เมื่อวิลโฟกัสไปที่ความฝันและการลงมือทำ เขาสามารถประสบความสำเร็จได้เหนือกว่าที่เขาเคยวาดฝันเอาไว้
แต่เมื่อใดก็ตามที่เขาปล่อยตัวปล่อยใจให้ถลำลงไปในหลุมดำของการคิดลบ ชีวิตเขาเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ความลังเล ความสงสัย ทุกอย่างดูยากเต็มไปด้วยอุปสรรค
บทเรียนสำคัญคือ เพียงโฟกัสไปที่ความฝัน เชื่อมั่นในตัวเอง ลงมือทำในสิ่งที่สามารถทำได้ทันที เราสามารถก้าวข้ามได้ทุกอุปสรรคและทำให้ทุกความฝันกลายเป็นความจริง
OHMPIANG
ธีระธรณ์ จิรธนัยโรจน์